Wednesday, 22 March 2023

มาโหด มหาเศรษฐีแดนผู้ดี พร้อมสร้างสถิติโลกยื่นซื้อ แมนยู จาก “ตระกูลเกลเซอร์”

ธรรมดาโลกไม่จำ สโมสรอย่าง แมนยู ประกาศขายทีมทั้งที จะซื้อราคาปกติอาจไม่มีทางเป็นไปได้ วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2565 ภายหลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีแถลงการณ์ไปเมื่อวานนี้ว่า ตระกูลเกลเซอร์ หัวเรือใหญ่ ของทีมพร้อมที่จะเปิดรับฟังข้อเสนอแนะจำหน่ายทีมหรือรวมถึงการเข้ามาเป็นหุ้นส่วนร่วมกันแล้ว หลัง 17 ปีที่เข้ามาคุมอำนาจใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถูกแฟนบอลไล่ส่ง และ ด่าไม่เว้นวัน

ซึ่ง ล่าสุด ซัน สปอร์ต สื่อกีฬาโด่งดังของอังกฤษ ได้เผยออกมาว่า เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ หนึ่งในมหาเศรษฐีที่มีเงินมีทองมากที่สุดของประเทศอังกฤษ ตระเตรียมที่จะยื่นข้อเสนอให้ เชื้อสายเกลเซอร์ ได้พิเคราะห์แล้ว โดยคาดว่าในเร็วๆนี้ จะมีความคืบหน้าในประเด็นนี้

มีการคาดการณ์ว่า ตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของ แมนยู คนเดี๋ยวนี้ ได้ตั้งราคาขายหลังเกิดกระแสข่าวความพอใจเทคโอเวอร์ต่อจากพวกเขาเอาไว้ที่ 5,000 ล้านปอนด์ (220,000 ล้านบาท) เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ซัน สปอร์ต กล่าวว่า เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ หวังจะทุบสถิติโลกซื้อแมนยู มาครอบครองด้วยจำนวนเงินมากถึง 9 พันล้านปอนด์ หรือราว388,471 ล้านบาทเลยทีเดียว

เบคแคม พร้อมผนึกกลุ่มทุนใหม่เทกโอเวอร์ แมนยู

“เบคแคม” พร้อมผนึกกลุ่มทุนใหม่เทกโอเวอร์ แมนยู ต่อจากตระกูล “เกลเซอร์”

“เดวิด เบคแคม” ตำนานแข้ง “ทีมชาติอังกฤษ” และ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” เตรียมการที่จะผนึกกำลังกับกลุ่มทุนใหม่เพื่อเข้าครอบครองยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทรฟเฟิร์ด ต่อจากตระกูล “เกลเซอร์”

วันที่ 24 เดือนพฤศจิกายน 65 เดวิด เบคแคม กองกลางระดับตำนานของ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ และ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังที่ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตรียมการที่จะผนึกกำลังกับกลุ่มทุนใหม่เพื่อเข้าครอบครองยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทรฟเฟิร์ด ต่อจากตระกูลเกลเซอร์ ที่เป็นเจ้าของทีมมานานกว่า 17 ปี จาการรายงานของ เดอะ ไทม์ส สื่อโด่งดัง

เป็นที่รู้เรื่องกันว่า โจเอล เกลเซอร์ กับ อัฟราม เกลเซอร์ 2 ญาติพี่น้องนักธุรกิจคนประเทศอเมริกา ได้เผยออกมาว่าพวกเขายินดีที่จะพูดจากับคนที่พร้อมจะเข้ามาซื้อสโมสร ยิ่งไปกว่านี้ยังมีการเปิดรับการดำเนินแผนงานร่วมกันโดยที่อาจจะมีการขายหุ้นจำนวนหนึ่งอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามข้อแรกที่ต้องการขายทีมนั้นดูเหมือนจะเป็นความต้องการสูงสุดมากยิ่งกว่า

ทั้งนี้ เดวิด เบคแคม พร้อมที่จะกระทำการพูดจากับกลุ่มทุนใหม่ที่ต้องการเข้ามาเป็นเจ้าของทีมคนใหม่ ท่ามกลางกระแสที่ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษที่เป็นแฟนบอลตัวยงของ แมนฯ ยูไนเต็ด และอยู่ที่คัมป์นู ในนัดชิงแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เมื่อปี 1999 ยิ่งไปกว่านี้ยังมีกลุ่มทุนจากนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ต้องการเข้ามาเป็นเจ้าของทีมเหมือนกัน

เศรษฐีเบอร์ 1 ผู้ดีแบะท่าเทคโอเวอร์

ทำเอาแฟน ลิเวอร์พูล มีเซ็ง! เศรษฐีเบอร์ 1 ผู้ดีแบะท่าเทคโอเวอร์แมนยู

เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีที่มีเงินมีทองที่สุดของ อังกฤษ แสดงท่าพึงพอใจที่จะเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างจริงๆจังๆแล้วหลังจากตระกูล เกลเซอร์ เจ้าของทีม ผีแดง สัญชาติ อเมริกัน ประกาศอย่างเป็นทางการพร้อมขายสโมสรเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ตระกูล เกลเซอร์ สร้างความแปลกใจไม่น้อยที่ตกลงใจขายทีม แมนฯ ยูไนเต็ด หลังเป็นเจ้าของสโมสรดังที่ พรีเมียร์ลีก มานาน 17 ปี และไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยมือแม้ว่าจะถูกกองเชียร์ เร้ด อาร์มี่ รวมตัวต่อต้านขับไล่หลายหนในหลายปีหลัง

ต่อสถานการณ์ล่าสุด เดอะ เทเลกราฟ รายงานเมื่อ 23 เดือนพฤศจิกายนว่า เซอร์ แรทคลิฟฟ์ ขยับตัวตั้งท่าที่จะเทคโอเวอร์ ผีแดง แล้วหลังที่ผ่านมาไม่นานเขาออกโรงปฏิเสธการซื้อ หงส์แดง หากแม้กลุ่ม เอฟเอสจี จะแถลงขายสโมสรโดยให้เหตุผลว่าต้องการใช้เงินทุนกับ นีซ ทีมลูกหนังของ ลีกเอิง ที่เขาเป็นเจ้าของถัดไป

กระนั้นดีแล้ว เป็นที่รู้กันว่าคนมั่งมีที่มีเงินมีทองที่สุดของ อังกฤษ เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และเมื่อไม่นานมานี้เขาเคยแสดงท่าพร้อมซื้อทีมรักมาบริหารด้วยในตอนที่ตระกูล เกลเซอร์ ถูกแฟนบอลต่อต้านครั้งใหญ่หนล่าสุด แต่ขณะเดียวกันเขาก็ยอมรับว่าไม่น่าจะเป็นไปได้เนื่องมาจากเชื้อสาย เกลเซอร์ ไม่สนใจขายทีม

ต่อการแสดงความพร้อมเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างจริงๆจังๆหลังมีการประกาศขายสโมสรจากนักธุรกิจชาว อเมริกัน นั้น เทเลกราฟ เผยว่าหากแม้ เซอร์ แรทคลิฟฟ์ จะพร้อมยื่นข้อเสนอ แต่ไม่น่าจะยินดีควักเงินมากถึง 5 พันล้านปอนด์ (ราว 216,950 ล้านบาท) ตามที่มีการคาดกันว่าตระกูล เกลเซอร์ หวังได้รับค่าตอบแทนราวๆนั้น

ทั้งนี้ เมื่อตอนซัมเมอร์ เซอร์ แรทคลิฟฟ์ ตกเป็นข่าวกับ เชลซี เหมือนกันหลังทางการเมืองผู้ดีบังคับให้ โรมัน อบราโมวิช คนมั่งมี รัสเซีย ขายทีมจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับการทำสงครามกับ ยูเครน แต่เป็น ทอดด์ โบลีห์ นักลงทุนชาวเมืองแยงกี้ที่แสดงความจริงจังมากยิ่งกว่า และได้ครอบครอง สิงห์บลูส์ ในท้ายที่สุด